เครื่องมือในการเรียนภาษาอังกฤษที่ดี (Listening)
สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ สำหรับน้องๆ ที่กำลังเตรียมสอบ หรือน้องๆ ที่กำลังหาความรู้เพิ่มเติมนั้น อาจจะเน้นหนักไปที่เรื่องของแกรมมาร์ หรือคำศัพท์ต่างๆ แต่การเรียนอังกฤษสมัยนี้ การฟังหรือ Listening ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งการเรียน Listening นั้นมีความสนุกมากกว่าการเรียนพวกแกรมมาร์ หรือท่องศัพท์อย่างแน่นอน เพราะมันมีอุปกรณ์ หรือแนวทางในการฝึกที่ทำให้สนุกอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- เรียนรู้จาก CD สอนภาษาอังกฤษ (เน้นหัดฟัง) ปัจจุบัน CD สอนภาษาอังกฤษนั้นมีขายอยู่มากมาย แม้แต่ในร้านสะดวกซื้อเองก็มีขายเช่นกัน ดังนั้นการเริ่มจาก CD เหล่านี้ก็เป็นการเริ่มที่น่าสนใจ เพราะหาซื้อมาเรียนรู้ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม การเรียนภาษาอังกฤษจาก CD สอนภาษานั้นอาจจะได้แค่ทักษะระดับเริ่มต้นเท่านั้น เพราะรูปแบบบทเรียนในซีดีเหล่านี้มักจะเน้นประโยคง่ายๆ ที่ไม่มีความซับซ้อนมากนักนั่นเอง
- เรียนรู้จากการฟังเพลงสากล โดยการเรียนรู้วิธีนี้ทำได้ง่ายเช่นกัน เพราะว่าเพลงสากลยุคนี้ก็มักจะมีการเอาไปลงไว้ให้ฟังกันที่ YouTube อยู่แล้ว ดังนั้นนักเรียนที่ต้องการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ในด้านการฟัง ของภาษาอังกฤษ ก็สามารถที่จะเข้าไปฟังเพื่อเพิ่มทักษะการฟังของตนเองได้ อย่างไรก็ตามเพลงบางเพลงนั้นจะไม่ค่อยเน้นแกรมม่านัก นอกจากนั้นนักเรียนควรเลือกฟังเพลงที่มีทำนองช้าหน่อย จะช่วยให้เราสามารถฝึกทักษะการฟังได้ดีมากขึ้น (หากฟังจนคล่องแล้วค่อยเพิ่มเป็นทำนองเพลงที่เร็วขึ้น)
- เรียนรู้จากการดูหนัง ดูซีรีย์ หรือดูคลิปรายการต่างๆ ของฝรั่ง ที่เขาใช้ภาษาอังกฤษณในการพูดกัน เพราะว่าการฟังภาษาจากสื่อบันเทิงเหล่านี้ จะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น จากการกระทำ หรือท่าทางของตัวละครที่เราดู นอกจากนั้นยังอาจจะได้ศัพท์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ หรือรูปประโยคต่างๆ ที่เราไม่คุ้นหู ตลอดจน Slang หรือคำแสลงต่างๆ อีกด้วย การเรียนรู้ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ จากสื่อบันเทิงเหล่านี้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี สำหรับผู้ต้องการศึกษาทักษะภาษาอังกฤษ ซึ่งนอกจากความรู้ที่ได้แล้ว ยังได้รับความบันเทิงอีกด้วยครับ
- การสื่อสารกับชาวต่างชาติจริงๆ อันนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ต้องการหัดทักษะการฟังภาษาอังกฤษเช่นกันเพราะการสื่อสารกับชาวต่างชาติ เปรียบเสมือนกับการลงสนามจริงๆ ที่ต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติจริงๆ ซึ่งหากเราไม่สามารถหาชาวต่างชาติคุยด้วยได้ ก็อาจจะเลือกใช้บริการโรงเรียนสอนภาษา หรือหาติวเตอร์ตัวต่อตัวมาสอนที่บ้านเลยก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ติวเตอร์ยุคใหม่ก็มีความแน่นเรื่องภาษากันอยู่มาก จะช่วยเพิ่มทักษะในการฟังภาษาอังกฤษให้แก่เราได้ (ติวเตอร์บางคนอาจเป็นชาวต่างชาติ)